ที่เที่ยว สวยสุดในไทย ชีวิตนี้ต้องไป ให้ได้สักครั้ง
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(กรุงเทพฯ)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เป็นชื่อเล่นที่คนไทยส่วนใหญ่มักเรียกกัน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ ประเทศที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมศิลปะไทย ไม่เพียงแต่จะต้องถวายเครื่องสักการะพระหยกเท่านั้น แต่ยังต้องสวดมนต์เพื่อตนเองและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามและเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาที่สำคัญสำหรับชาวไทย ราชวงศ์ ภายในพระอุโบสถและระเบียงมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามายณะที่สวยงาม ทางวัดมีการแต่งกายบางอย่าง ไม่อนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะภายใน แต่มีจุดบริการให้เช่าเสื้อผ้าก่อนเข้าวัด
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ยกเว้นวันที่มีพระราชพิธีต่าง ๆ) ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น.
- คนไทยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถแสดงบัตรประชาชนได้ที่ทางเข้า
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ ค่าบัตรเข้าชม 500 บาท สามารถเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พิพิธภัณฑ์ผ้า ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในบริเวณพระบรมมหาราชวัง
*** กรณีที่ต้องการ Audio Guide สำหรับฟังบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน รัสเซีย ญี่ปุ่น จีนกลาง และไทย สามารถเช่าในราคา 200 บาท บริเวณจุดประชาสัมพันธ์
ส่วนการซื้อบัตรสามารถซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายภายในพระบรมมหาราชวัง หรือสามารถซื้อบัตรผ่านทางออนไลน์ ล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนวันเข้าชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.royalgrandpalace.th
วัดร่องขุ่น (จ.เชียงราย)
วัดร่องขุ่น สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งในจุดเช็คอินสำคัญของเชียงราย ด้วยตัวอุโบสถสีขาว เน้นความสะอาดบริสุทธิ์ เป็นการเที่ยววัดจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป วันนี้เราจะพาคุณมาชมความสวยงาม ที่คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความวิจิตร อลังการของวัดร่องขุ่นจังหวัดเชียงราย เพราะเกิดจากการปราณีตบรรจงสร้างของศิลปินชั้นครูของไทย นั่นก็คืออาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่เรารู้จักกันดีพร้อมเอกลักษณ์การก่อสร้างแบบไทยที่โดดเด่น บอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาในเชิงสัญลักษณ์ไว้ได้อย่างสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างพากันมาทำบุญ พร้อมโพสต์ท่าถ่ายรูป อัปลงโซเชียลกันมากมาย เครดิตความดีงามนี้ก็คงต้องยกให้กับศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชาวเชียงรายโดยกำเนิดนั้นเอง อาจารย์ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 3 สิ่งได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
สามารถเดินทางไปโดยใช้ถนนสายเชียงราย-กรุงเทพฯ และถ้ามาจากกรุงเทพฯ หรือ เชียงใหม่ วัดร่องขุ่น ก็จะอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงรายไปราวๆ 13 กิโลเมตร อยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 816 บนถนนพลหลโยธินเลยค่ะ จากนั้นให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 100 เมตร ไม่นานก็จะเจอแล้วค่ะ ตรงนี้จะมีป้ายทางอยู่ การเดินทางมาที่วัดร่องขุ่นแห่งนี้คุณสามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินเชียงราย จากนั่นคุณสามารถเช่ารถขับมาเองได้เลย หรือ คุณสามารถมาขึ้นรถโดยสารประจำทางที่ผ่านวัดร่องขุ่น ที่บขส เชียงรายเก่าก็ได้เช่นเดียวกัน
-
ที่อยู่ : ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
-
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
-
โทร : 0-5367-3579
-
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น
ปราสาทสัจธรรม(พัทยา)
มหาปราสาทไม้ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน39ปีจนถึงปัจจุบัน(เจ้าของเดียวกับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ3เศียรและเมืองโบราณสมุทรปราการ)ประเมินมูลค่าไม่ได้ ก่อสร้างด้วยวิธีโบราณไม่ใช้ตะปูด้วยช่างไม้ยอดฝีมือจากทั่วสารทิศ ผสมผสานศาสนา และวัฒนธรรมจากทุกๆชาติพันธุ์ เพื่อแสดงให้เห็นสัจธรรมในชีวิตแห่งมวลมนุษย์ชาติ และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาครั้งที่3แล้ว ยังคงตราตรึงเหมือนต้องมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมไทยโบราณ งดงามอลังการเหนือคำบรรยาย เป็นปราสาทที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต และมีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ แกะสลักด้วยลวดลายวิจิตรงดงามอยู่แทบทุกจุดของปราสาททั้งภายนอกและภายใน ตั้งอยู่บนแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ซึ่งนอกจากจะเป็นปราสาทไม้สวยที่สุดในประเทศไทย
การเข้าชมประสาทสัจธรรมมีค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ 500 บาท และเด็ก 250 บาท ส่วนการเดินทาง หากมาจากพัทยาจะอยู่ห่างจากพัทยาใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ 12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย จะมองเห็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ของปราสาทอยู่ทางขวามือ
ใครชื่นชอบความงามของไม้แกะสลักที่สวยตามแบบช่างไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ชอบการสอนเรื่องคุณธรรมผ่านศิลปะที่สวยงาม และชอบถ่ายรูปไปพร้อมๆ กัน ลองมาเที่ยวที่ปราสาทไม้สัจธรรมรับรองไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน
สถานที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม
เลขที่ 206/2 หมู่ 5 แหลมราชเวช อ่าววงพระจันทร์ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
โทร. 0-3836-7815, 0-3836-7229, 0-3822-5407
เวลาในการเยี่ยมชมแนะนำ: 2 ชั่วโมง
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว (จ.เพชรบรูณ์)
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเขาค้อ ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเช็กอินไม่ขาดสายแล้ว ความน่าสนใจเห็นจะเป็นทำเลที่ตั้งที่ล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์สวย และรอบตัววัดยังประดับประดาด้วยแก้ว แหวน เพชร เครื่องเบญจรงค์ กระจกหลากหลายสีสัน ช่วยสร้างบรรยากาศให้ที่นี่น่าเดินน่าเที่ยวท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย เหล่านี้เป็นสิ่งที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวอยากจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง
ใครที่มาเที่ยวที่นี่เห็นทีจะปฏิเสธความงดงามของ “มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์” ไม่ได้ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสีขาวซ้อนกัน 5 องค์ บนฐานช่อบัว และกลีบบัวยังประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องสีครีม สีขาว เป็นลวดลายสวยงาม ตั้งตระหง่านโดดเด่นท่ามกลางวิวผาสวย ลองที่ได้เห็นจะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และอลังการ น่าศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง บริเวณชั้น 7 ภายในมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธานบนยอดกลีบบัว ซึ่งประดับและตกแต่งด้วยเพชรทั้งหมด
สำหรับการเดินทางไปยังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สามารถดูพิกัด Google Maps : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้หลากหลายวิธี แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมมักจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนนต์ส่วนตัว โดยขับมาตามเส้นทางดังต่อไปนี้
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี และใช้เส้นทางหมายเลข 21 สระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ เมื่อผ่านตัวเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์มาสักระยะจนใกล้หลักกิโลเมตรที่ 260 ให้สังเกตอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองทางซ้ายมือ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 หล่มสัก พิษณุโลก ขับต่อไปยังทางหลวงหมายเลข 12 เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 103 จะเห็นป้ายวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ทางขวามือ ตรงไปนิดหน่อยก็กลับรถเลี้ยวเข้าวัด และจอดรถในบริเวณที่จัดไว้
ที่ตั้งวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง
ที่อยู่: 95 ตำบล แคมป์สน อำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์ 67280
แผนก: พระศรีอริยเมตไตรย วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว · โรงทาน ปารมีทาน วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
เวลาทำการ: เปิด 06:00 - 17.00 น.
น้ำตกเอราวัณ(จ.กาญจนบุรี)
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เดิมมีชื่อว่าน้ำตกสะด่องม่องล่าย ตามชื่อต้นน้ำที่เกิดจากลำห้วยม่องล่าย บนเทือกเขาสลอบ สายน้ำไหลจากยอดเขาสูงผ่านหน้าผาหินปูนขนาดต่าง ๆ ลดหลั่นลงมา 7 ชั้น บริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 ชื่อว่า “ภูผาเอราวัณ” ในช่วงที่มีน้ำตกไหลแรง จะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า“ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อ “อุทยานแห่งชาติเอราวัณ”
ความยาวตลอดเส้นทางน้ำตกชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 7 ประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นเรียกชื่อแตกต่างกัน มีแอ่งน้ำใส บางชั้นมีสีฟ้าอมเขียวมรกตคล้ายสระว่ายน้ำ เนื่องจากน้ำที่ไหลมาจากเขาหินปูนมีสสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนต เมื่อแสงส่องมากระทบน้าในแอ่ง จะทำให้สะท้อนเป็นสีฟ้า หรือสีเขียวมรกตสวยงาม สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย การเยี่ยมชมน้ำตกทั้ง 7 ชั้น ใช้เวลาในการเดินขึ้น-ลงประมาณ 3 ชั่วโมง ทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้ 2 เส้นทาง คือ - เส้นทางสายป่าดิบแล้งม่องล่าย ระยะทาง 1,010 เมตร ลักษณะเป็นทางเดินเลียบลำห้วยม่องล่าย เริ่มจากสะพานค่ายพักแรมไปบรรจบกับเส้นทางในน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 3 - เส้นทางเขาหินล้านปี ระยะทาง 1,940 เมตร เริ่มจากลานจอดรถไปบรรจบกับเส้นทางสู่น้ำตกชั้นที่ 4
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท นอกจากนี้ ภายในอุทยานฯ ยังมีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวให้อีกด้วย
สอบถามข้อมูล ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
หมู่4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เวลาทำการ: 7.00 – 16.30 น.
โทร 034-574-222, 034-574-234